ฟันแบบไหนที่ควรจัดฟัน

ฟันแบบไหนที่ควรจัดฟัน จริงๆแล้วในอดีต การจัดฟันจะมุ่งเน้นเพื่อแก้ไขให้คนไข้ที่มีความผิดปกติของการสบฟันให้มีการสบฟันที่ดีเป็นหลัก ซึ่งการสบฟันที่ดีนั้นย่อมทำให้เกิดความสวยงามของฟันและรอยยิ้มควบคู่ไปด้วย ในปัจจุบันต้องยอมรับว่าการจัดฟันโดยส่วนใหญ่จะมักจะเน้นไปทางด้านความสวยงามมากกว่า และแน่นอนทันตแพทย์จัดฟันที่ดีก็จะมุ่งเน้นให้คนไข้ได้ทั้งความสวยงามของรอยยิ้ม รูปหน้าควบคู่ไปกับการสบฟันที่ดีด้วย ฟันแบบไหนที่ควรจัดฟันก็จะหมายถึงฟันรูปแบบต่างๆที่ไม่สวยงามหรือมีความปกติของการสบฟันดังต่อไปนี้

ฟันซ้อนเก ไม่ว่าจะในบริเวณฟันหน้าหรือฟันหลัง
ฟันที่มีช่องห่างระหว่างฟันไม่สวยงาม ในกรณีที่มีช่องห่างระหว่างฟันซึ่งเกิดจากการมีขนาดฟันเล็กในขากรรไกรใหญ่อาจต้องปรึกษาทันตแพทย์ที่ดูแลเรื่องการบูรณะฟันเข้าร่วมด้วย บางครั้งอาจไม่มีความจำเป็นต้องจัดฟัน เพียงแต่สร้างฟันให้ใหญ่ขึ้นเพื่อปิดช่องว่างระหว่างฟัน บางครั้งการจัดฟันให้ช่องระหว่างฟันสมมาตรเหมาะสมก่อนการบูรณะฟันจะทำให้ได้ผลการรักษาที่สวยงามยิ่งขึ้น
มีฟันบนยื่นกว่าฟันล่างมาก (Class II malocclusion)
มีฟันล่างยื่นมากกว่าฟันบน (Class III malocclusion)
มีฟันล่างสบลึกเข้าไปในฟันบน (Deep bite)
มีฟันหน้าบนและล่างไม่สบกัน (Open bite)

จัดฟันควรเริ่มที่อายุเท่าไหร่

การจัดฟันสามารถเริ่มได้เมื่ออายุครบ 12 ปีซึ่งฟันแท้ขึ้นครบ หากมีอายุตั้งแต่ 6-12 ปีจะเป็นการจัดฟันเพื่อการป้องกันซึ่งมักรักษาโดยทันตแพทย์เฉพาะทางสำหรับเด็ก และคุณหมอจัดฟันสำหรับเด็ก

อายุมากสามารถจัดฟันได้หรือไม่

ถึงปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยสามารถจัดฟันได้ทุกช่วงอายุ แต่ในผู้ที่มีอายุน้อยจะเคลื่อนฟันได้ง่ายกว่า

จัดฟันมีกี่แบบ อะไรบ้าง

การจัดฟันเฉพาะที่นิยมในปัจจุบันอาจแบ่งได้เป็น3กลุ่ม

กลุ่มที่ใส่ Bracket ร่วมกับการใช้ลวดโดยใช้หนังสติกในการยึด Bracket ติดกับลวด แบบนี้ถือว่าเป็นการจัดฟันแบบดั้งเดิมซึ่งก็มีประสิทธิภาพในการจัดฟัน แต่การจัดฟันอาจจะเจ็บหน่อย และเคลื่อนฟันได้ช้าหน่อย และจำเป็นต้องพบทันตแพทย์บ่อยครั้งประมาณเดือนละครั้ง ทั้งนี้เพราะหนังสติกจะลัดลวดกับ Bracket ด้วยแรงเต็มที่และจะหมด Actionค่อนข้างรวดเร็ว ทำให้เจ็บหน่อยฟันเคลื่อนได้น้อยในการปรับเครื่องมือแต่ละครั้ง และต้องมาพบทันตแพทย์บ่อย
การจัดฟันระบบ Damon การจัดฟันระบบนี้จะเป็นการใช้ Bracket ร่วมกับการใช้ลวดชนิด Long acting ยึดเข้าด้วยกันอย่างหลวมด้วยบานเปิดปิด ทำให้การเคลื่อนฟันมีประสิทธิภาพ เจ็บน้อย และการปรับฟันแต่ละครั้งอยู่ได้นาน ค่อยๆเคลื่อนฟันไปอย่างมีประสิทธิภาพ และไม่จำเป็นต้องพบทันตแพทย์บ่อย ประมาณ 2 เดือนต่อครั้ง
การจัดฟันระบบ Invisalign เป็นการจัดฟันที่ไม่ต้องมีเครื่องมือติดในช่องปาก แต่เป็นการใช้เครื่องมือถอดได้ชนิดใส (Clear Aligner) หลายๆชิ้นซึ่งผลิตขึ้นจากการวางแผนการรักษาในคอมพิวเตอร์สามมิติโดยไล่ระดับการเคลื่อนตัวของฟันไปทีละน้อย การจัดฟันจึงเป็นการค่อยๆเปลี่ยนเครื่องมือถอดได้ชนิดใสนี้ไปเรื่อยๆทีละชิ้น จนฟันเคลื่อนที่ไปตามการวางแผนการรักษาจนฟันมีการเรียงตัวที่ดีและสวยงามตามแผนการรักษา

การจัดฟัน เจ็บไหม

การจัดฟันจะก่อให้เกิดความเจ็บได้จากสาเหตุดังต่อไปนี้ แต่ก็เป็นการเจ็บที่ไม่มากนัก

การเจ็บจากการปรับเครื่องมือจัดฟันให้ฟันเคลื่อนไปในทิศทางที่ทันตแพทย์ต้องการ ซึ่งจะมีการเจ็บในลักษณะตึงฟัน อย่างไรก็ดีระบบ Damon ที่เราเลือกใช้จะเจ็บน้อยกว่าระบบธรรมดาทั่วไปที่เป็น Bracket แล้วใช้หนังสติ๊กรัดไว้ เพราะจะออกแรงในครั้งเดียวเลย ส่วน Damon จะเป็นลวด Long acting อยู่ใน Slot ของ Bracket ในลักษณะมีบานปิด ทำให้ออกแรงช้าๆ และออกแรงอยู่ได้นานๆทำให้เจ็บน้อยกว่า
เจ็บจากการระคายเคืองของเครื่องมือจัดฟันในช่องปากซึ่งอยู่นอกตัวฟันทำให้บาดริมฝีปาก หรือ กระพุ้งแก้ม หรือบางครั้งก็มีลวดแทงกระพุ้งแก้ม ซึ่งแก้ไขด้วยการตัดลวดออก หรือใช้ขี้ผึ้งปิดบรเวณเครื่องมือที่ระคายเคือง การเจ็บในลักษณะนี้ก็ไม่มากมายนัก

ระหว่างจัดฟันทานอะไรได้บ้าง

คนไข้สามารถรับประทานอาหารได้ทุกอย่างแต่ทันตแพทย์จะแนะนำให้หลีกเลี่ยงการทานอาหารจำพวกของที่เหนียว หรือมีความแข็ง เช่น หมากฝรั่ง ขนมปังที่มีความแข็ง อาหารที่ต้องใช้การกัดแทะ หากเป็นอาหารที่มีความแข็งควรหั่นให้เป็นชิ้นพอดีคำแล้วค่อยรับประทาน

วิธีการทานสำหรับคนไข้จัดฟัน

การทานอาหารสำหรับคนไข้จัดฟันควรรับประทานอาหารอ่อนๆเช่นข้าวต้ม โจ๊ก น้ำแกงต่างๆ แต่ก็สามารถทานอาหารได้ทุกอย่างเช่นกันเพียงแต่พยายามตัดหรือสับให้เป็นชิ้นเล็กๆ เวลาทานควรทานคำละน้อยๆ และทานอย่างระมัดระวังเพราะบ้างครั้งในอาหารอาจมีก้อนแข็งๆที่เรานึกไม่ถึง ทำให้เครื่องมือเราหลุดได้ ควรทานอย่างยั้งๆไว้บ้างอย่ากัดเต็มแรงมากเกินไป การทานผลไม้ควรระวังพวกเม็ดแข็งๆควรปอกหรือหั่นเป็นชิ้นเล็กๆก่อนรับประทาน และสุดท้ายพวกอาหารเหนียวๆกัดไม่ขาดเช่นผัก ปลาหมึก เนื้อเหนียวๆควรหั่นให้เป็นชิ้นเล็กๆก่อนทาน ในช่วงที่มีการปรับเครื่องมือใหม่ๆจะมีอาการปวดตึงฟันให้ทานเบาๆและขอเป็นอาหารอ่อนๆไว้ก่อน หลังจากอาการตึงฟันน้อยลงแล้วจึงทานแข็งขึ้น เหนียวขึ้นได้

จัดฟันให้หน้าเรียวทำได้หรือไม่

จริงๆการจัดฟันไม่ได้มีผลโดยตรงต่อรูปหน้าของคนไข้ แต่ก็ส่งผลต่อรูปหน้าคนไข้ได้เช่นเดียวกัน การจัดฟันมุ่งเน้นให้มีการเรียงตัวของฟัน และการสบฟันที่ดีขึ้น ในการทำดั่งนี้ หากมีการเพิ่มความสูงของใบหน้าส่วนล่าง (Vertical dimension) ของคนไข้ ก็จะทำให้หน้าเรียวขึ้น และหากมีการทำให้ขากรรไกรแคบลงก็จะดูหน้าเรียวขึ้น แต่วัตถุประสงค์หลักคงมุ่งเน้นการจัดฟันให้ฟันอยู่ในลักษณะที่ถูกต้องเป็นหลัก ไม่ใช่คนไข้ทุกคนจะสามารถทำให้หน้าเรียวได้