โรงอุปรากรปาแลการ์นีเย สร้างขึ้นในช่วงปี 1862 เป็นส่วนหนึ่งของโครงการสร้างสิ่งก่อสร้างใหม่ของจักรวรรดิฝรั่งเศสที่ 2 ที่ริเริ่มโดยจักรพรรดินโปเลียนที่ 3 โดยมีพระบรมราชโองการให้เคลียร์พื้นที่ 12,000 ตารางเมตรที่ใช้ในการสร้างโรงละคร Palais Garnier Opera House เพื่อใช้จัดแสดงอุปรากรของสถาบันดนตรีแห่งชาติ สร้างโดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศส
ชาร์ล การ์นีเย สถาปัตยกรรมภายในโรงละคร Palais Garnier Opera House เป็นการตกแต่งตามแบบฉบับของสถาปัตยกรรมบาโรกสุดอลังการ บริเวณเพดานรอบโคมระย้าได้รับการเขียนภาพใหม่ โดยมาร์ค ชากาล เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 5 มกราคม 1875 โรงอุปรากรปาแลการ์นีเยมีพื้นที่กว่า 11,000 ตารางเมตร เเละสามารถรองรับผู้เข้าชมได้กว่า 2,200 ที่นั่ง โรงละครแห่งนี้ถือเป็นงานสถาปัตยกรรมชิ้นเอกของยุคที่มีอิทธิพลต่อสิ่งก่อสร้างหลายแห่งในต่างประเทศอีกด้วย โรงอุปรากรปาแลการ์นีเย ถือเป็นโรงละครและโอเปร่าเฮ้าส์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ตกแต่งได้อย่างหรูหราอลังการ เป็นตัวอย่างของงานสถาปัยกรรมตามสไตล์ของจักรพรรดินโปเลียนที่ 3 ที่ตกแต่งตามแบบฉบับของสถาปัตยกรรมบาโรกได้อย่างสวยงาม ภายในตัวโรงละครประกอบด้วยระเบียง, บันได, ที่พักระหว่างขั้นบันได และ เวิ้ง ที่ผสานสลับกันไปมาที่ทำให้ผู้คนจำนวนมากสามารถเคลื่อนย้ายไปทำการสังสรรค์กันได้อย่างสะดวกในช่วงพักครึ่งการแสดง ไฮไลท์ของโรงละครแห่งนี้มีมากมาย อาทิ โถงบันไดหินอ่อนสีขาว , Paris Opera Library Museum, ฉากหน้าอาคารใหญ่ Place de l’Opera ด้านนอกอาคารมีประติมากรรมบนหลังคา รวมถึงจิตรกรรมฝาผนังเฟรสโก ห้องโถงใหญ่ที่ประดับด้วยแผ่นทองและโคมระย้า เมื่อเข้ามาภายในโรงละครทางเข้าหลักถูกตกแต่งด้วยภาพโมเสก เมื่อขึ้นไปที่โถงอาคารจะได้พบกับภาพจิตรกรรมบนเพดานที่บอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์การดนตรีโดยฝีมือของ Paul Baudry, ภาพจิตรกรรมปูนเปียกที่ประดับเพดานของหอประชุมรูปทรงพระจันทร์เสี้ยวโดย Marc Chagall ประติมากรรม Apollo, Poetry and Music ของ Aimé Millet และเมื่อเราแหงนหน้าขึ้นไป จะพบกับโคมไฟระย้าขนาดใหญ่ที่จะย้ำเตือนให้คุณนึกถึงฉากหนึ่งของมิวสิคัลชื่อดัง The Phantom of the Opera โดย Andrew Lloyd Webber สำหรับเวที Palais Garnier Opera House สามารถรองรับนักเเสดงได้มากกว่า 450 คน